คนที่เก่งคนที่เก่งจริง เขาจะกล้าที่จะเดินไปข้างหน้าเองได้เพียงลำพัง

คนดี คนเก่ง  จิตวิทยา คนฉลาด  ลักษณะ คนเรียนเก่ง  คนเก่งไม่อวด  คนเก่ง คือ  ลักษณะ คนเก่งงาน  คนเก่ง คอร์ด  คนดี คนเก่ง หมาย ถึง

คนที่เก่งไม่มีใครเดินเคียงคู่คุณไป จนถึงปลายทางคนดี คนเก่งอย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งหรือเรื่องราวใดเรื่องราวหนึ่ง กลายเป็นทั้งหมดในชีวิตคุณ2.ความซาบซึ้งทดแทนความผูกพันไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นใคร เพื่อนหรือคนแปลกหน้าคุณต้องเรียนรู้ ที่จะยิ้ม แม้ในใจจะร่ำไห้ สะอื้นสักเพียงใดเพราะมนุษย์ทุกคน ต่างมีความเห็นแก่ตัวฉะนั้นอย่าไปคาดหวังว่าจะมีใครดีต่อคุณโดยปราศจากเงื่อนไขหากใครคนหนึ่ไม่มีค่าเพียงพอให้คุณถนอมก็ต้องฝึกปล่อยฝึกวางฝึกทิ้ง

ณ

ลักษณะ คนเรียนเก่ง

3.กำแน่นเท่าใดก็สูญเสียมากเท่านั้นเหมือนกับการกำทรายนั่นแหละจิตวิทยา คนฉลาด ยิ่งคุณกำแน่นทรายก็ร่วงออกจากมือ มากเท่านั้น ที่ควรถนอมจงรู้ถนอมเพราะเมื่อใด ที่คุณสูญเสียไป สิ่งนั้นคนนั้นอาจเป็นสิ่งที่มีค่าที่ทำให้คุณ เจ็บปวดและเสียใจที่สุดก็เป็นได้ เมื่อใดที่รู้สึกสิ้นหวัง หากอย ากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะแต่เมื่อร้อง จนหนำใจแล้วก็ต้องลุกขึ้นยืนหยัดอีกครั้งให้ได้4.อย่าเลือกคบคนที่รูปร่างหน้าตาจงเรียนรู้ที่จะชื่นชม คนที่ความสามารถและหากคุณคิดว่า ตัวเองสู้คนอื่นเขาไม่ได้อย่าได้น้อยเนื้อต่ำใจ เพราะคุณก็เป็นคนธรรมดาเหมือนคนอื่นทั่วๆไป5.พ่อแม่คือคนที่รักและปรารถนาดีต่อคุณมากที่สุดอย่าคิดถึงท่าน เฉพาะตอนไม่มีเงิ น อย่าคิดว่าในสายตาพ่อแม่คุณ ยังเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา อันนี้ก็ถูกถูกในมุมของพ่อแม่ แต่ไม่สงสารพ่อแม่เหรอที่มีลูกไม่รู้จักโตสักที6.ไม่มีอะไรเหมือนเดิมเพราะทุกสิ่งเปลี่ยนไปทุกเวลานาทีอย่าเอาวิธีการเก่าๆ มาแก้ไขปัญหา คนสองคนรักกันอาจไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา อย่าเอาแต่พร่ำเพ้ออย่าเอาแต่เรียกร้อง เพราะสิ่งนี้อาจเป็นชนวนที่ทำให้คนสองคน ยิ่งมากยิ่งห่าง ยิ่งมากยิ่งกลายเป็นคนแปลกหน้าที่มา รักยิ้ม

โฌ

คนดี คนเก่ง หมาย ถึง

120,000 แล้วเ งินล้านบาทล่ะ เราต้องใช้เวลาเก็บถึง 10 ปีเลยหรือไม่เบื่อเป็นมนุษย์เ งินเดือนกันบ้างเหรอไงครับวิธีเดียวที่จะช่วยให้เรารวยขึ้นได้ ลักษณะ คนเรียนเก่งก็คือต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดและทัศนคติของเราเสียใหม่ เพราะความคิดเดิมๆเป็นอุปสรรคต่อความร่ำรวยครับ1.คนรวยชอบคิดชอบหาไอเดียใหม่ๆอยู่เสมอ ทำให้สามารถสร้างช่องทางของรายได้มากกว่าคนธรรมดาทั่วไป2.คนรวยกล้าพูดกล้าข ายกล้านำเสนอ คนรวยจะกล้าข าย กล้านำเสนอสิ่งที่สร้างประโยชน์ หรือสร้างคุณค่าให้ผู้อื่น“ผู้ซื้อ”จะซื้อหรือไม่เป็นอีกเรื่อง?3.คนรวยโครตขยัน!และมีเป้าหมายของตัวเองชัดเจน พื้นฐานของคนสำเร็จต้องขยันทุกคน แต่ขยันอย่างมีเป้าหมาย และรู้ว่าขยันไปเพื่ออะไรหลักคิดคนหาเงิ นเก่งเขาคิดกันยังไง1.)หาเงิ นเป็น ทักษะเหมือนกีฬา

โง่,จน,เจ็บ'

ลักษณะ คนเรียนเก่ง

ไม่มีนักกีฬามืออาชีพคนไหนที่มาเริ่มฝึกตอนโต การฝึกทักษะการหาเ งิน ยิ่งเด็กยิ่งได้เปรียบ2.)คนเก่งไม่อวดคนจะจ่ายเงิ น เมื่อเราแก้ปัญหาให้เขาทุกปัญหามีเ งินซ่อนอยู่ตั้งใจดูแล้วจะเห็น3.) ทำเรื่องย ากให้มันง่าย คนจะยอมจ่ายเงิ นถ้าเราทำเรื่อง ย าก ให้มันง่าย ธุรกิจให้ความรู้ออนไลน์ทั้งหมดตั้งอยู่บนพื้นฐานนี้ คือทำเรื่องย ากให้ง่าย…ง่ายสุดก็ข ายดีสุด4.ทำเรื่องที่คนอื่นไม่อย า กทำทำความสะอาด เก็บขยะการจัดระเบียบวางระบบงานสร้างคนยอมจ่ายเงิ น ให้สิ่งที่เขาไม่อย ากทำเองเสมอ5.จ่ายน้อยทยอยผ่อนคนยอมซื้อง่ายกว่า6.การหาเงิ นไม่ใช่สิ่งผิดไม่ใช่เรื่องน่าอายคนที่ทำงานหาเงิ นตั้งแต่เด็ก จะไม่มองเงิ นในแง่ลบเหมือนคนส่วนใหญ่ เราต้องมองการหาเ งินในแง่บวก7.ให้เก็บเงิ นเพื่อซื้อสินทรัพย์ที่สร้างเ งินคนหาเงิ นเก่ง ย่อมมีวันนึงที่ไม่เก่ง ต้องสร้างทางเลือกโดยการทยอยซื้อสินทรัพย์ ที่สร้างเงิ นให้เราตลอดไปเช่นหุ้นปันผล

การเปลี่ยนควา

จิตวิทยา คนฉลาด

ในการทดลองนำร่องของงานวิจัยนี้เกิดขึ้นภายในห้างแห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐฯคนเก่ง คือ ทีมวิจัยได้จ้างคนที่มาเดินซื้อของจากหลากหลายระดับรายได้ของครัวเรือน จำนวน 101 คน โดยทีมวิจัยได้กำหนดสถานการณ์สมมุติให้รถยนต์ของผู้เข้าร่วมการทดลองมีเหตุให้ต้องซ่อมในตอนนั้น โดยให้พวกเขาคิดว่าจะจ่ายเงินซ่อมเองเลย หรือยืมเงินคนอื่นมาซ่อม หรือยังไม่ซ่อม แต่ก่อนที่พวกเขาจะตอบ ทีมวิจัยให้พวกเขาทำการทดสอบในคอมพิวเตอร์ที่ให้เลือกสัญลักษณ์จากตัวเลือกให้เข้ากับกลุ่มสัญลักษณ์ (Raven’s) ที่เป็นส่วนหนึ่งในแบบทดสอบเชาว์ปัญญาหรือ IQ ซึ่งไม่ต้องเกี่ยวข้องกับความรู้เดิมหรือการอ่าน, และการทดสอบที่มีคำขึ้นมาเป็นชื่อของสีแต่สีของตัวอักษรไม่ตรงกับคำแล้วให้เลือกคำที่ตรงกับสี (Stroop) เพื่อทดสอบความรวดเร็วในการตอบสนองและความถูกต้อง

พบว่าจากที่ผู้วิจัยกำหนดราคาที่ต้องจ่ายเพื่อซ่อมรถยนต์ในสถานการณ์สมมติ 150 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นเงินที่ไม่มากนัก ผู้ร่วมการทดลองที่ฐานะทางเศรษฐกิจดีและฐานะไม่ดี ทำคะแนนจากการทดสอบ Raven’s และ Stroop ได้ไม่ต่างกัน แต่การทดลองในรอบที่สองทีมวิจัยกำหนดว่าผู้ร่วมทดลองต้องจ่ายค่าซ่อมรถในสถานการณ์สมมติ 1,500 ดอลลาร์ฯ พบว่าผู้ร่วมทดลองที่ฐานะไม่ดี ทำคะแนนได้ ‘แย่ลง’ อย่างน่าสนใจ ขณะที่ผู้ร่วมทดลองที่ฐานะดี ทำคะแนนได้ไม่ต่างจากรอบแรก

แต่ผู้วิจัยยังไม่รีบสรุปว่าความยากจนทำให้ “โง่” …ลักษณะ คนเก่งงาน ในการทดลองภาคสนามของทีมวิจัยเดียวกันนี้ ได้ทดสอบกับเกษตรกรชาวไร่อ้อย 464 คนใน 54 หมู่บ้านที่มีการปลูกไร่อ้อยในจังหวัด ตามิล นาดู ประเทศอินเดีย โดยเป็นคนที่รายได้ของพวกเขาอย่างน้อย 60% มาจากการทำไร่อ้อย ซึ่งผู้วิจัยได้สัมภาษณ์เพื่อตรวจสอบเรื่องชาวไร่อ้อยดังกล่าวเกี่ยวกับความกังวลด้านการเงินก่อนและหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตซึ่งห่างกันประมาณ 4 เดือนในปี 2010 และให้ชาวไร่อ้อยทำการทดสอบ Raven’s และ Stroop เหมือนที่ทำในห้างที่นิวเจอร์ซีย์ แต่สำหรับการทดสอบ Stroop เพื่อป้องกันผลที่เกิดจากความไม่คุ้นชินด้านภาษาของชาวไร่อ้อย ทีมวิจัยจึงใช้การทดสอบ Stroop แบบดั้งเดิมซึ่งเป็นตัวเลข เช่น 555 ให้ตอบว่า 3 ซึ่งเป็นจำนวนของเลข 5 เป็นต้น แล้วบันทึกเวลาที่ใช้และความผิดพลาด

ส่วนปัจจัยที่อาจเบี่ยงเบนผลการทดสอบอย่างปริมาณที่จะเก็บเกี่ยวได้นั้นสามารถคาดการณ์ได้ก่อนเก็บเกี่ยวหลายเดือนแล้ว ส่วนการได้เงินจากการเก็บเกี่ยวที่ห่างจากการเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จหลายสัปดาห์ ซึ่งจากการสัมภาษณ์หลังเก็บเกี่ยวทีมวิจัยนี้รับรู้แล้วว่าความกังวลเรื่องเงินของชาวไร่อ้อยจะหายไปเมื่อได้รับเงิน หรือความเหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บเกี่ยว ในทางปฏิบัติจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดมีชาวไร่อ้อย 316 คน ที่จ้างคนงานมาเก็บเกี่ยวให้ ซึ่งทีมวิจัยได้คำนวณโดยตระหนักถึงปัจจัยที่อาจจะเบี่ยงเบนผลการทดสอบ Raven’s และ Stroop แล้ว

เป็นเพราะพวกเขาทำแบบทดสอบเป็นครั้งที่สองหรือไม่ ที่ทำให้พวกเขาทำคะแนนได้ดีขึ้น? คนเก่ง คอร์ด ซึ่งผู้วิจัยได้ตระหนักถึงความสงสัยนี้ที่จะเกิดขึ้น โดยได้สุ่มเลือกชาวไร่อ้อย 100 คนต่างหาก แล้วให้พวกเขาทำแบบทดสอบเดียวกันกับชาวไร่อ้อยที่ทำแบบทดสอบทั้งก่อน-หลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งพบว่ากลุ่มที่ทำแบบทดสอบครั้งแรกกับกลุ่มที่ทำครั้งที่สอง ได้คะแนนไม่ค่อยต่างกัน และผลการทดสอบที่หลังการเก็บเกี่ยว ชาวไร่อ้อยทำคะแนนได้สูงกว่าก่อนเก็บเกี่ยว ทีมวิจัยจึงสรุปว่า ความยากจนบั่นทอนศักยภาพของสมอง ส่วนคำถามที่ว่าการมีเงินมากขึ้นหลังจากการเก็บเกี่ยวทำให้ชาวไร่ได้กินอาหารที่มีสารอาหารมากขึ้น ส่งผลให้มีสมองที่ดีขึ้นด้วยหรือไม่ คืออาจจะไม่เกี่ยวกับสถานะทางการเงิน ประเด็นนี้ทีมวิจัยได้ทำวิจัยนำร่องก่อนแล้วในปี 2009 ซึ่งใช้แบบทดสอบเดียวกันกับชาวไร่อ้อย 188 คน ในการสัมภาษณ์ก่อน-หลังเก็บเกี่ยว มีคำถามเกี่ยวกับเงินที่ใช้เรื่องอาหาร ซึ่งพบว่าก่อน-หลังเก็บเกี่ยวพวกเขาจ่ายเงินเรื่องอาหารการกินไม่ต่างกัน

หากถามว่าเป็นผลจากความเครียดอะไรก็ได้หรือไม่ ไม่จำเป็นต้องเครียดเรื่องเงินเท่านั้นหรือไม่ คนดี คนเก่ง หมาย ถึงผู้วิจัยระบุว่าในการทดลองนำร่องปี 2009 พวกเขาได้วัดการเต้นของหัวใจและวัดความดันชาวไร่อ้อยที่ร่วมทดสอบแล้ว ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ก่อนเก็บเกี่ยวก็สูงกว่าหลังเก็บเกี่ยว โดยผู้วิจัยระบุว่าความเครียดอะไรก็ได้ยังไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน ทีมวิจัยได้คำนวณใหม่โดยใช้ปัจจัยเรื่องความเครียดในความหมายกว้างที่วัดจากระดับการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตร่วมด้วย ซึ่งพบว่าความเครียดในความหมายกว้างๆ นี้ไม่เพียงพอที่จะอธิบายเรื่องคะแนนการทำแบบทดสอบหลังเก็บเกี่ยวที่ได้มากกว่าก่อนเก็บเกี่ยว ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยที่มีอยู่แล้วก่อนหน้านั้นที่พบว่าความเครียดมีทั้งช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นและแย่ลงทีมวิจัยจึงสรุปว่า ‘ความยากจน’ ลดทอนศักยภาพของสมอง โดยเมื่อเทียบเคียงกับการวิจัยด้านการนอนหลับและด้านสติปัญญาที่มีอยู่ก่อนหน้านั้น จากความเปลี่ยนแปลงของคะแนนการทดสอบก่อน-หลังเก็บเกี่ยว และสถานะทางการเงินของชาวไร่อ้อยก่อน-หลังเก็บเกี่ยว ก็สามารถพูดได้ว่าความไม่มั่นคงทางการเงินทำให้ IQ ลดลง 13 หน่วย ซึ่งเหมือนคนที่มีสติปัญญาระดับปกติแต่ไม่ได้นอนมาทั้งคืนหรือเสพติดสุรา คนที่เก่ง

เครดิต  stand-smiling.com

 

เเนะนำ